หากใครมีโอกาสได้ไปจังหวัดกาญจนบุรี แอดมินคิดว่าสักครั้งต้องได้ไป วัดถ้ำเสือ จ.กาญจนบุรี พร้อมไปสักการะพระพุทธรูปประทานพรใหญ่ที่สุดของจังหวัด กราบไหว้พระบรมสารีริกธาตุซึ่งประดิษฐาน ณ เจดีย์สูง 9 ชั้นที่สวยงาม ดูถ้ำเสือซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของวัดแห่งนี้ กราบไหว้สังขารหลวงปู่ชื่น ที่บรรจุอยู่ในโลงแก้ว(ไม่เน่าเปื่อย) และไม่พลาดชมสถาปัตย์กรรมที่สวยงาม อีกทั้งดูวิวมุมสูงผ่อนคลายทางสายตาและสูดอากาศบริสุทธิ์บนเชิงเขา... เรียกว่า มาทั้งได้บุญ ทั้งผ่อนคลายกันสุดๆ ทีมงาน Review Promote ไม่พลาดนำรีวิวกันทุกมุมมาให้ชมกัน ติดตามกันได้เลย...

ใกล้ๆ กับส่วนบริเวณถ้ำ คือ ศาลาการเปรียญประดิษฐานสังขารหลวงปู่ชื่น ที่บรรจุอยู่ในโลงแก้ว มีศาลาประดิษฐานรูปหล่อเจ้าอาวาสหลวงพ่อสิงห์ หลวงพ่อชื่น ซึ่งหลวงพ่อสิงห์เป็นพระธุดงค์ที่มาพบถ้ำเสือ ส่วนหลวงพ่อชื่นเป็นผู้บูรณะปฏิสังขรวัด 

โดยทางวัดจะมีกล้องวงจรปิด แสดงภาพของสังขารหลวงปู่ชื่นบนจอทีวีด้านล่าง ซึ่งสามารถเข้าไปกราบไหว้ได้

เมื่อแอดมินสักการะสังขารและเข้าเยี่ยมชมถ้ำเสือเสร็จแล้ว ทีมงานก็จะเดินทางขึ้นไปบนเขาที่ประดิษฐานหลวงพ่อชินประทานพร และพระเจดีย์ ซึ่งสามารถเดินขึ้นบันไดนาคด้านหน้า ที่มีจำนวน 157 ขั้น ชันประมาณ 60 องศา หรือซื้อตั๋วรถรางไฟฟ้านั่งไปกลับ (ไม่ต้องเดิน) ในราคาเพียง 10 บาท เมื่อขึ้นไปถึงบนเขาบริเวณวัด ด้านซ้ายติดกับบริเวณรถรางจะเป็นพระเจดีย์เกศแก้วปราสาท

แอดมินดูจากภาพรวม เลยตัดสินใจซึ้อตั๋วรถรางไฟฟ้า...เพื่อขึ้นไปด้านบน (กระดูกและข้อต่ออ่อนแอ เลยต้องยอมแพ้ T-T )

การขึ้นรถรางไฟฟ้าก็ใช่ว่าจะชิว... มีแอบตื้นเต้น เพราะอันเนื่องจากทางที่ชันมาก...เหมือนเล่นสวนสนุกเล็กๆ มีใจหวิว..หวิว...เล็กน้อย

หากขึ้นบันได ก็จะมีความชันประมาณนี้... ใครฟิต แอดมินขออนุโมทนา ด้วยแล้วกันนะจ๊ะ.....

เมื่อขึ้นถึงชั้นบนความรู้สึกแรกเมื่อเดินไปยังบริเวณวัด...รู้สึกตื่นเต้นในสถาปัตย์กรรม ทั้งเจดีย์ และพระพุทธรูปที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดกาญจนบุรี

หลวงพ่อชินประทานพร องค์พระสูง 9 วา 9 นิ้ว หน้าตักกว้าง 5 วา 3 ศอก 9 นิ้ว สีทองอร่าม ซึ่งดูสวยงามมาก...

หลังจากลืมตัว เก็บภาพมุมต่างๆ พอตั้งสติได้ลืมกราบไหว้และขอพรหลวงพ่อชินประทานพร จึงต้องเข้าไปบูชาดอกไม้ธูปเทียนกันซะหน่อย แต่ที่แปลกของที่นี่คือ ดอกไม้ที่ทางวัดเตรียมจะเป็น ดอกกระเจียว เท่านั้น

พระเจดีย์เกษแก้วปราสาท เป็นเจดีย์ทรงแปดเหลี่ยม องค์พระเจดีย์เป็นสีอิฐ(ออกสีส้ม)ทั้งองค์แบ่งเป็นชั้นต่างๆ หลายชั้น แต่ละชั้นจะ ประดิษฐาน พระพุทธรูปต่างๆมากมายจนถึงชั้นบนสุดเป็นที่ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจากประเทศอินเดีย ซึ่งโดยส่วนตัว แอดมิน ชอบรูปทรงและสถาปัตย์กรรมที่ดูสงบ สวยงาม และสง่ามาก... ไม่พลาดที่จะเข้าไปด้านในั

ในส่วนของประตูนี้ แอดมินเห็นว่าเป็นจุดถ่ายรูปที่นักท่องเที่ยวชอบถ่ายกันมากๆ ....

การขึ้นไปยังด้านบน จะเป็นบันไดวนขึ้นไปเรื่อยๆ ตามชั้นของพระเจดีย์ ซึ่งในแต่ละชั้นจะมีภาพวาดแสดงรายละเอียดของประวัติของชาติไทย พระมหากษัตริย์ ประวัติพระพุทธเจ้า รวมถึงพระพุทธรูปต่างๆ 

เมื่อมาถึงชั้นบนสุดจะพบที่ ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุ ที่อัญเชิญมาจากประเทศอินเดีย ซึ่งสามารถเข้ากราบไหว้เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตัวเอง (แอดมินแอบเหนื่อพอสมควร...เพื่อขึ้นมาเก็บภาพให้ได้ แค่นี้ก็คุ้มแล้ว)

เมื่อลงมาจากเจดีย์เรียบร้อยแล้ว ก็เลาะมาเก็บภาพรอบๆ สักนิด...สถาปัตย์กรรมที่นี่สวยจริงๆ

สำหรับภาพที่เห็นเป็นเจดีย์ทรงจีน นั้นเป็นของ วัดถ้ำเขาน้อย ซึ่งเป็นวัดจีนติดกับทางวัดถ้ำเสือ แต่ต้องเข้าวัดโดยทางด้านล่างเท่านั้น (มีกำแพงกั้นอยู่) แอดมินไม่ได้ไปชมวัดถ้ำเขาน้อย ไว้โอกาสหน้าหากได้ไปจะไปเก็บรีวิวมาให้...ติดไว้ก่อนนะจ๊ะ

สรุป การเดินทางมายัง วัดถ้ำเสือ อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี

- การเดินทางเปิดจาก Google Map ได้แต่พอใกล้ถึงบริเวณวัดอาจมีจราจรติดขัด และสับสนเล็กน้อยสำหรับคนไม่เคยมา(แอดมินก็หนึ่งในนั้น) เนื่องจากเป็นเหมือนทางเดินรถได้ทางเดียว ทำให้รถสวนกันลำบาก

- แนะนำให้มาช่วงเช้ามากๆ เพื่อหลีกเลี่ยงนักท่องเที่ยว และการจอดรถซึ่งคาดว่าเสาร์-อาทิตย์ แน่นมากๆ 

- หากมีพละกำลังและแรงศรัทธามากๆ แนะนำให้ขึ้นบันได แต่หากมีผู้ใหญ่หรือเด็กมาด้วย แนะนำขึ้นรถรางไฟฟ้า (มีแอบหวิวเล็กๆ อันนี้ต้องลองเองจะได้รู้)

- สถาปัตย์กรรมของวัดสวยงาม และคนเยอะมากๆ สำหรับวันเสาร์-อาทิตย์

- ดอกไม้ที่ไหว้พระชินประทานพร ที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดกาญจนบุรี ใช้ดอกกระเจียว เท่านั้น

- ค่าใช้จ่ายเน้นการทำบุญตามศรัทธา ไม่มีการเก็บค่าบริการใดๆ มีเพียงค่าขึ้นรถรางไฟฟ้าเท่านั้น

- บรรยากาศบนเนินเขา และวิวรอบของวัด สวยงาม ธรรมชาติสไตล์กาญจนบุรี อยากรู้ไปดูกันเอง

- แนะนำเลยว่าหากไม่เคยมา ให้ลองมาสักครั้ง... เปิดประสบการณ์ให้ชีวิต ^^