เกาะเต่าถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อของประเทศไทย แต่ภายในความงามนั้นที่ผ่านมาจะเห็นข่าวนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเสียชีิวิตที่นี่หลายต่อหลายราย ซึ่งแต่ละคดีนั้นก็มักจะมีอะไรที่ดูไม่ชอบมาพากลในสายตาคนต่างชาติและคนไทยเช่นกัน

ล่าสุดสื่อต่างชาติอย่าง The Independent ของทางอังกฤษ ถึงกับเขียนข่าวเกี่ยวกับด้านมืดของเมืองไทย ที่ว่าทำไมคุณถึงไม่ควรไปเที่ยวเกาะเต่าเด็ดขาด…โดยมีเนื้อหาดังนี้

“อเมซ่ิ่ง ไทยแลนด์” เป็นคำขวัญของไทยที่ต่างชาติอาจจะรู้จักดี แต่ในขณะที่ประเทศไทยที่น่าสนใจในหลายๆ ด้าน มีเกาะที่สวยงามน่าหลงใหล แต่รู้หรือไม่ว่ามันมีด้านมืดที่แฝงอยู่ในสถานที่ท่องเที่ยวเหล่านี้

คนเขียนเล่าว่า.. ในช่วงหลายปีที่ผมอาศัยอยู่ในสยามเมืองยิ้มแห่งนี้ ผมได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับอุบัติเหตุมอเตอร์ไซค์ รถยนต์ เรือ และรสบัส มีเรื่องการหลอกลวง การชิงทรัพย์ การจมน้ำ และการเสียชีวิตที่มักจะเต็มไปด้วยเงื่อนงำ

หนึ่งในเหยื่อของการฆาตกรรมเหล่านี้คือเยาวชนชาวอังกฤษ Hannah Witheridge และ David Miller ทั้งคู่ถูกฆ่าตายอย่างทารุณบนเกาะเต่าในปี 2014

ในช่วงที่เกิดเหตุ มีนักข่าวต่างประเทศมาสัมภาษณ์ผม เพื่อที่จะรวบรวมคำให้การของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่อยู่บนเกาะแห่งนี้

สำหรับผมแล้ว เกาะเต่าเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตทางทะเลที่น่าหลงใหล จนกลายเป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แม้จะเป็นเกาะเล็กๆ แต่มีคนอาศัยอยู่ประมาณ 2,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่จะทำงานในศูนย์ดำน้ำ ร้านอาหาร และที่พักสำหรับนักท่องเที่ยว

ทางด้านเจ้าของกิจการทั้งหลายกลับกลัวที่จะพูดความจริง เพราะกลัวว่าจะได้รับอันตรายหากคำพูดของพวกเขาถูกนักข่าวบันทึกและนำไปเผยแพร่

อย่างไรก็ตาม พวกเขาบอกว่าในเกาะเล็กๆ แห่งนี้มีครอบครัวมาเฟียอาศัยอยู่ พวกเขามักจะเรียกเงินค่าคุ้มครองจากชาวบ้าน ใช้อำนาจข่มขู่ตำรวจในพื้นที่ และหากใครจะทำธุรกิจอะไรต้องผ่านพวกเขาก่อนทั้งหมด ที่สำคัญแม้พวกเขาจะทำร้ายชาวบ้านหรือหนักถึงขั้นเผาบ้านกัน ก็ไม่มีใครกล้าทำอะไรพวกเขา

ต่อมาการสืบสวนคดีของ Witheridge และ Miller ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง โดยตำรวจถูกกล่าวหาว่าไร้ความสามารถ และยังมีคนงานพม่าอีก 2 กลายมาเป็นคนร้าย

คดีนี้ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก จนนำไปสู่การขุดคุ้ยคดีอื่นๆ ที่เกิดขึ้นบนเกาะเต่า หนึ่งในนั้นคือคดีของ Nick Pearson จากดาร์บี้ซึ่งตำรวจได้สรุปสาเหตุการตายว่า ‘เขาพลัดตกลงมาจากหน้าผา’

นอกจากนี้ยังมีคดี Dimitri Povse นักท่องเที่ยวชาวฝรั่งเศสที่ถูกพบว่าถูกแขวนคอภายในห้องพัก โดยที่มือเขามีร่องรอยถูกมัดไว้ข้างหลัง

จากเหตุการณ์ทั้งหมดเหล่านี้ ผมตัดสินใจที่จะไม่ไปเกาะเต่าอีกเลย ผมก็ยังได้บอกเพื่อนๆ กับครอบครัวด้วยว่าไม่ควรไปที่เกาะเต่าเด็ดขาด

ล่าสุดได้มีการพบร่าง Elise Dallemange นักท่องเที่ยวหนุ่มที่เสียชีวิตอย่างน่าสงสัย และนี่ยิ่งทำให้ผมเชื่อว่าเกาะเต่าเป็นสถานที่เราควรหลีกเลี่ยงมากที่สุด

ในขณะที่เกาะเต่ากำลังพบเจอปัญหาอันหนักหน่วง ก็ยังมีการทุจริต และอำนาจของกลุ่มมาเฟีย ที่ไม่เพียงควบคุมบนเกาะเต่าเท่านั้น แต่อำนาจของพวกเขาได้ครอบคลุมถึงจังหวัดภูเก็ต เกาะสมุย และเกาะพีพี

ผู้จัดการโรงแรมห้าดาวแห่งหนึ่งเล่าให้ผมฟังว่า พวกเขาต้องเก็บเงินให้ได้มากที่สุด เพื่อที่จะได้ไปพ้นจากอำนาจของกลุ่มมาเฟียเสียที

นอกจากแก๊งมาเฟียแล้ว ตอนที่ผมมาอยู่ในภาคใต้ไม่กี่สัปดาห์ ผมก็ได้เจอกับแท็กซี่มาเฟีย ที่เรียกเก็บค่าโดยสารมากถึง 10 เท่าของค่าโดยสารในกรุงเทพ

หนังสือเดินทางของคุณก็ควรพกติดตัว แม้จะฝากกับหน่วยรักษาความปลอดภัยหรือตำรวจมันก็ไม่ได้ปลอดภัยจริงๆ และหากคุณมีปัญหา ตำรวจจะไม่ช่วยคุณเลย แม้จะบอกว่าเกิดภัยคุกคามที่ร้ายแรงกับคุณก็ตาม

นอกจากนี้ ยังดูเหมือนว่าเกาะเต่าจะเป็นแหล่งอันตรายสำหรับผู้หญิงด้วย เนื่องจากมีการคุกคามทางเพศที่รุนแรง รวมทั้งเกาะสมุยและจังหวัดกระบี่ด้วย

ที่น่ากลัวคือ เรื่องเหล่านี้กลายเป็นเหตุการณ์ปกติที่เกิดขึ้นที่นี่ บางส่วนมักจะเกิดในช่วงเดือนที่มีฟูลมูนปาร์ตี้ และมักเกิดขึ้นในช่วงดึกใกล้บาร์ต่างๆ

ย้อนกลับมาที่เกาะเต่าหากคุณไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ บนเกาะแห่งนี้ อย่ารับเครื่องดื่มจากคนแปลกหน้า เนื่องจากมีรายงานว่าผู้หญิงถูกหลอกไปข่มขืนเป็นจำนวนมาก

ตลอด 3 ปี ที่ผมอยู่ในประเทศไทย ผมพบว่าที่นี่ไม่มีความปลอดภัยเลย และหากคุณจะมาที่นี่ผมคิดว่าคุณจะต้องระมัดระวังตัวเป็นพิเศษ

คุณจะต้องหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่มีความเสี่ยง อย่าขึ้นเสียงกับคนไทย เพราะคนไทยเกลียดการเสียหน้า เมื่อไหร่ก็ตามที่รู้สึกเสียหน้า พวกเขาจะหันไปใช้ความรุนแรงทันที แต่ทางทีดี ผมขอแนะนำให้หลีกเลี่ยงเกาะเต่าอย่างเด็ดขาด…

 
และทั้งหมดนี้คือประสบการณ์และความคิดเห็นชาวต่างชาติคนหนึ่งที่อาศัยอยุ่ที่เกาะเต่าเป็นเวลา 3 ปี

แหล่งที่มา : http://www.catdumb.com/koh-tao-is-a-no-go-zone-777/