อะแฮ่ม…ทุกคนคะ วันนี้ มัชรูมทราเวล ขอปรับโหมดเป็นผู้รอบรู้ เพราะว่าเราจะพาไป ดูจุดชมซากุระที่สวยที่สุดของประเทศญี่ปุ่น ปี 2017 กันถึง 12 จุดด้วยกัน พร้อมวิธีการเดินทางที่ใครๆ ก็ไปได้
ฤดูใบไม้ผลิของประเทศญี่ปุ่นกำลังจะมาเยือนในปีหน้าแล้ว สิ่งที่อยู่คู่ฤดูกาลนี้ก็คือดอกซากุระที่บานสะพรั่งนั่นเอง กลีบสีขาวและสีชมูของดอกซากุระตามสถานที่ต่างๆ จะบานรอผู้คนไปเยี่ยมชมความงดงามไล่ตั้งแต่เกาะทางใต้จรดไปยังเกาะทางเหนือ ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนพฤษภาคม แต่ช่วงที่บานเยอะสุดเห็นจะเป็นช่วงเดือนเมษายน สำหรับใครที่วางแพลนจะไปชม ซากุระญี่ปุ่น กันในปีหน้า เราก้มีจุดชมซากุระสวยๆ มาฝากถึง 12 จุดทั่วประเทศญี่ปุ่น ตามมาดูกันเลยค่ะ
เริ่มจาก โตเกียว เมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น มาดูกันว่ามีจุดชมซากุระสวยๆ ที่ไหนบ้าง
สวนสาธารณะขนาดใหญ่ใจกลางโตเกียว เป็นจุดชม ซากุระญี่ปุ่น ยอดนิยมของชาวเมืองหลวง ที่ต่างพากันมาเป็นครอบครัว กลุ่มเพื่อน หรือแม้แต่คู่รัก ด้วยต้นซากุระที่มีมากกว่า 1,000 ต้น สนุกสนานไปกับเทศกาลชมดอกซากุระที่จะเริ่มมีให้ชมในช่วงต้นเดือนเมษายนประมาณวันที่ 1-10
เวลา เปิด-ปิด : 9.00-16.30 น.
ค่าเข้าชม : 200 เยน
วิธีการเดินทาง : รถไฟใต้ดินสาย Marunouchi สถานี Shinjuku-gyoemmae ทางออก 1
อีกหนึ่งสวนสาธารณะที่นักชม ซากุระญี่ปุ่น ต้องไม่พลาด ตั้งอยู่ในเขตไทโต ประเทศญี่ปุ่น เมื่อถึงฤดูใบไม้ผลิ สองข้างทางเดินภายในสวนจะเต็มไปด้วยดอกซากุระที่บานสะพรั่ง ซึ่งภายในสวนจะมีการจัดเทศกาลชมซากุระอย่างยิ่งใหญ่ โดยจะจัดตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายน
เวลา เปิด-ปิด : ตลอดเวลา
ค่าเข้าชม : ไม่มี
วิธีการเดินทาง : รถไฟใต้ดินสาย Keisei สถานี Ueno ทางออก Park Exit
แม่น้ำสายเล็กๆ ในโตเกียว ใกล้กับย่านชิบุยะ โดยริมสองฝั่งแม่น้ำนั้นเรียงรายไปด้วยต้นซากุระกว่า 800 ต้นที่โค้งเข้าหากัน ยามที่ดอกซากุระบานจะเหมือนกับอุโมงค์ซากุระเหนือแม่น้ำ ระยะทางยาวกว่า 1.7 กิโลเมตร ถือว่าเป็นจุดชม ซากุระญี่ปุ่น ที่สวยที่สุดและโรแมนติกที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่นเลยล่ะ และจะยิ่งสวยงามมากขึ้นในยามค่ำคืนด้วยโคมไฟกระดาษที่ประดับบนต้นซากุระ
เวลา เปิด-ปิด : ตลอดเวลา แต่จะจัดแสดงไฟถึงเวลา 21.00 น.ของทุกวัน
ค่าเข้าชม : ไม่มี
วิธีการเดินทาง : รถไฟใต้ดินลงสถานี Nagameguro
ต่อกันที่ เกียวโต จังหวัดในภูมิภาคคันไซ ที่นี่มีจุดชมซากุระสวยๆ ของประเทศญี่ปุ่นให้ได้เลือกชมหลายที่เช่นกันค่ะ
เส้นทางชมดอกซากุระอันน่ารื่นรมย์ของประเทศญี่ปุ่นนี้ ตั้งอยู่สองข้างทางของคลองบิวาโกะ คลองเล็กๆ ที่เชื่อมระหว่างวัดกินคะคุจิไปจนถึงวัดนันเซ็นจิ ได้รับยกย่องว่าเป็นจุดชมซากุระที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองเกียวโต โดยดอกซากุระจะเริ่มบานตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน
เวลา เปิด-ปิด : ตลอดเวลา
ค่าเข้าชม : ไม่มี
วิธีการเดินทาง : นั่งรถบัสสาย 5, 17, 100 มาลงป้าย Ginkakuji-michi เดินต่ออีก 3 นาทีจากหน้าวัดกินคะคุจิ
สวนสาธารณะแห่งนี้ ตั้งอยู่หลังศาสเจ้ายาซะกะ ใจกลางสวนจะเต็มไปด้วยต้น ซากุระญี่ปุ่น หลายสายพันธุ์ขนาดใหญ่ ที่แข่งกันบานสะพรั่งในช่วงต้นเดือนเมษายน กลางคืนจะประดับด้วยไฟให้บรรยากาศสวยงามไปอีกแบบ โดยที่นี่จะมีการจัดโต๊ะเล็กๆ ใต้ต้นซากุระ เพื่อให้ผู้ที่มาเยี่ยมชมได้มานั่งปิกนิกกันเพลินๆ ระหว่างชมซากุระอีกด้วย
เวลา เปิด-ปิด : ตลอดเวลา
ค่าเข้าชม : ไม่มี
วิธีการเดินทาง : นั่งรถบัสสาย 100, 206 จากสถานีรถไฟ Kyoto มาลงป้าย Gion Bus Stop
ศาลเจ้าชินโตที่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองเกียวโต ด้านหน้าจะมีประตูโทะริอิขนาดยักษ์ ซึ่งบริเวณด้านหลังศาลเจ้า คือสวนขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยต้นไม้นานาชนิด รวมถึงต้นซากุระจำนวนมากด้วย ซึ่งดอกซากุระของที่นี่นั้นจะเริ่มบานตั้งแต่ช่วงกลางเดือนเมษายนเป็นต้นไป
เวลา เปิด-ปิด : 8.30-17.30 น.
ค่าเข้าชม : 600 เยน (เฉพาะภายในสวน) ส่วนศาลเจ้าเข้าชมฟรี
วิธีการเดินทาง : รถไฟใต้ดินลงสถานี Higashiyama แล้วเดินต่ออีกประมาณ 10 นาที
ข้ามมาดูกันที่ จังหวัดโอซาก้า กันบ้างค่ะ ที่นี่ก็มีจุดชมซากุระที่สวยไม่แพ้กัน
ภาพดอกซากุระที่เบื้องหลังคือปราสาท เทนชุคาคุ ภายในสวนสาธารณะปราสาทโอซาก้านั้น ช่างเป็นภาพที่สวยงามลงตัว ถ้าหากได้ไปสัมผัสด้วยตาตัวเองแล้ว นับว่าเป็นทัศนียภาพที่ยากจะลืมเลือนจริงๆ ค่ะ เอาไปเลย 5 ดาว! โดยดอกซากุระจะเริ่มบานตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายน
เวลา เปิด-ปิด : 9.00-20.00 น.
ค่าเข้าชม : ไม่มี (ยกเว้นสวนนิชิโนมารุ เสียค่าเข้าชม กลางวัน 200 เยน กลางคืน 500 เยน)
วิธีการเดินทาง : รถไฟใต้ดินลงสถานี Tanimachi chrome หรือสถานี Morinomiya
สวนสาธารณะเล็กๆ ริมแม่น้ำโอคาวะ ที่เรียงรายไปด้วยต้นซากุระกว่า 5,000 ต้น ตั้งอยู่ไม่ไกลจากปราสาทโอซาก้า แต่ว่าผู้คนบางตากว่าเยอะ ใครที่อยากถ่ายรูป ซากุระญี่ปุ่น แบบไม่ค่อยติดคน บรรยากาศไม่แออัด แนะนำให้มาที่นี่เลยค่ะ
เวลา เปิด-ปิด : ตลอดเวลา
ค่าเข้าชม : ไม่มี
วิธีการเดินทาง : รถไฟสาย JR มาลงสถานี Sakuranomiya
ที่นี่นับเป็นจุดชมซากุระที่สวยไม่แพ้ที่อื่นในญี่ปุ่นเลยค่ะ เนื่องจากฉากหลังคืออาคารรูปทรงคลาสสิกสไตล์ยุโรป ของโรงกษาปณ์แห่งนี้ที่ปัจจุบันกลายเป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงเหรียญต่างๆ ให้คนทั่วไปเข้าชม โดยเทศกาลชมซากุระของที่นี่จะประดับไฟสวยๆ เอาไว้มากมาย พร้อมทั้งมีการออกร้านรวงต่างๆ ทั้งอาหารพื้นเมือง เกมส์สนุกๆ หูยยยย น่าไปมั่ก
เวลา เปิด-ปิด : จันทร์-ศุกร์ 10.00-21.00 น., เสาร์-อาทิตย์ 9.00-21.00 น.
ค่าเข้าชม : ไม่มี
วิธีการเดินทาง : รถไฟสาย JR มาลงสถานี Osaka Temmangu หรือรถไฟใต้ดินสถานี Minamorimachi แล้วเดินต่อประมาณ 10 นาที
เปลี่ยนบรรยากาศไปชม ซากุระญี่ปุ่น ในจังหวัดอื่นๆกันบ้าง
เกาะสวรรค์อันเงียบสงบนอกชายฝั่งเมืองฮิโรชิม่า ประเทศญี่ปุ่น เป็นเกาะศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าลอยน้ำอิสึกุชิมะอันโด่งดัง โดยในช่วงฤดูใบไม้ผลิ เกาะทั้งเกาะจะกลายเป็นสีชมพูสุดโรแมนติกด้วยดอกซากุระที่กำลังบานสะพรั่งทั่วทั้งเกาะ ซึ่งซากุระจะเริ่มบานในช่วงต้นเดือนเมษายนของทุกปีค่ะ
เวลา เปิด-ปิด : ตลอดเวลา
ค่าเข้าชม : ไม่มี
วิธีการเดินทาง : รถไฟสาย JR จากฮิโรชิม่ามาลงสถานี Miyajimaguchi แล้วงเรือข้ามฝากอีกประมาณ 10 นาที ค่าเรือฟรีสำหรับผู้มีตั๋วรถไฟ JR Pass
มาลองชม ซากุระญี่ปุ่น จากมุมสูงกันดูบ้าง ที่ภูเขาโยชิโนะ ในจังหวัดนารา นับเป็นจุดชมซากุระที่สวยที่สุดในประเทศญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะเวลาที่ซากุระกว่า 30,000 ต้นบานเต็มภูเขา ประมาณช่วงกลางเดือนเมษายน จนสีชมพูปกคลุมไปทั่วบริเวณ ช่างเป็นภาพที่สวยงามจนแทบหยุดหายใจ
เวลา เปิด-ปิด : ตลอดเวลา
ค่าเข้าชม : ไม่มี
วิธีการเดินทาง : มีรถรับส่งจากสถานีรถไฟ Yoshino และสถานี Naka Senbon ระหว่างเดือนมีนาคม-พฤษภาคม ราคาเที่ยวละประมาณ 360 บาท
สวนนี้ตั้งอยู่ในจังหวัดฟุกุชิมะ เป็นจุดชมซากุระที่สวยงามเช่นกัน โดยมีจุดให้ชมทั้งบนพื้นราบและบนเขาที่ต้องเดินขึ้นไป (เตรียมกำลังขาเอาไว้ให้ดีล่ะ) แต่นอกจากการมาชมซากุระที่สวนแห่งนี้แล้ว ภายในสวนยังมีพืชพรรณต่างๆ และดอกไม้อีกนานาพันธุ์รอให้เราได้ชื่นชมค่ะ
เวลา เปิด-ปิด : ตลอดเวลา
ค่าเข้าชม : ไม่มี
วิธีการเดินทาง : จากสถานีรถไฟ Fukushima ออกทางออกฝั่งตะวันตก มาต่อรถบัสตรงป้าย ค่าโดยสารไปกลับประมาณ 500 เยน
เป็นยังไงกันบ้างคะ กับ 12 จุดสวย สำหรับชม ซากุระญี่ปุ่น ปี 2017 พร้อมวิธีการเดินทางที่มัชรูมทราเวลนำมาฝากกันในวันนี้ ใครมีตั๋วเครื่องบินอยู่ในมือแล้ว ก็เตรียมตัววางแพลนไปชมซากุระตามจุดต่างๆ ทั้ง 12 จุดนี้ได้เลยค่าาาา
แชร์บอกให้เพื่อนคุณรู้