1. เมื่อคุณมีหนี้สินท่วมหัว สิ่งแรกที่คุณต้องทำคือ ทำใจยอมรับความจริง ยิ้มสู้กับมัน และอย่างที่เราบอกไว้ตั้งแต่ต้น คุณต้องมีความตั้งใจจริง สิ่งต่อมาซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมาก คือ หยุดสร้างหนี้เพิ่ม เลิกใช้บัตรเครดิตทุกใบที่มี เก็บเอาไว้ที่บ้านเลย หรือถ้าใจเด็ดอยากหักดิบจริง ๆ ตัดบัตรทิ้งไปให้หมดเลยค่ะ และหากเจ้าหนี้ที่ธนาคารโทรมาทวงหนี้ ห้ามหนี ห้ามขาดการติดต่อเด็ดขาด
2. คำนวณยอดหนี้ทั้งหมด จัดลำดับยอดหนี้ที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงสุดมาไว้เป็นยอดหนี้ที่ต้องปิดให้เร็วที่สุดก่อน หากมีหนี้บ้านหนี้รถ ให้เลือกชำระหนี้ส่วนนี้ก่อน เพราะมีความสำคัญมาก เบี้ยวไม่ได้ โดยเฉพาะหนี้ผ่อนรถ เป็นคดีอาญา เบี้ยว 3 เดือนจะถูกฟ้องร้องทันที
3. คำนวณรายได้ของคุณ ว่าแต่ละเดือนได้เงินมาเท่าไหร่ ค่าใช้จ่ายประจำมีเท่าไหร่ ค่าใช้จ่ายประจำก็จำพวก ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าอินเทอร์เน็ต โดยค่าใช้จ่ายประจำนี้ คุณอาจจะรวมหนี้บ้านและหนี้รถเข้าไปด้วยก็ได้ เพราะเป็นหนี้ที่เบี้ยวไม่ได้อย่างที่เราบอกไปข้อที่แล้ว
4. หากรายได้หลังหักค่าใช้จ่าย ใกล้เคียงหรือเท่ากับยอดหนี้ขั้นต่ำที่ต้องชำระในแต่ละเดือน สิ่งที่คุณต้องทำคือ หัดทำบัญชีรายรัยรายจ่ายของคุณเอง คุณจะได้รู้ว่าในแต่ละวัน เงินคุณหายไปไหน และรู้ว่าค่าใช้จ่ายอะไรที่ไม่จำเป็นและสามารถตัดออกไปได้บ้าง
5. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น อย่างเช่น ลดแพ็คเกจเคเบิ้ลทีวีที่มีราคาแพง เหลือเพียงแพ็คเกจที่เหมาะสมกับการใช้งานคุณ หรือหากคุณแทบจะไม่เคยเปิดทีวีดูเลย การยกเลิกบริการถือเป็นทางเลือกที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายไปได้มากทีเดียว หรืออีกวิธี งดดื่มกาแฟจากร้านดัง ที่มีราคาแสนจะแพง มาดื่มกาแฟฟรีที่ออฟฟิศมีให้บริการอยู่แล้ว ต่อเดือนก็ช่วยคุณประหยัดไปได้เป็นพันบาทเลยนะคะ หรือเลิกทานอาหารนอกบ้าน หันมาทำอาหารทานเองก็ช่วยให้คุณประหยัดไปได้มากขึ้น การทำอาหารหนึ่งครั้ง สามารถทานได้เป็นอาทิตย์ ห่อไปเป็นอาหารมื้อกลางวันทางที่ทำงาน ก็ประหยัดไปได้หลายมื้อเลยทีเดียวนะคะ
6. หากไม่มีหนี้บ้านรถมีแต่หนี้บัตรเครดิต ให้พยายามชำระหนี้บัตรเครดิตที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงที่สุดให้มากกว่าขั้นต่ำ เพื่อที่จะได้ปลดหนี้ก้อนนี้ให้เร็วที่สุด เพราะหนี้ก้อนนี้ ยิ่งปล่อยเอาไว้นาน ยิ่งสร้างภาระดอกเบี้ยเพิ่มให้คุณมาก และจะยิ่งทำให้การปลดหนี้ของคุณช้าลงไปอีก ดังนั้น ให้เน้นหนี้ที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงที่สุดเป็นอันดับ 1
7. หากคุณรู้ว่ากำลังจะมีเงินก้อนเข้ามา ในอนาคตอันใกล้ เช่น กำลังจะได้โบนัสปลายปีในอีกสองสามเดือนข้างหน้า ให้เลือกติดต่อประนอมหนี้กับธนาคารผู้ออกบัตรเครดิตที่มีอัตราดอกเบี้ยน้อยที่สุด เพื่อต่อรองของชำระแต่ดอกเบี้ยไปก่อน ช่วยลดภาระต่อเดือนลงไปได้มากขึ้น และนำเงินส่วนต่างมาโปะบัตรเครดิตใบที่มีอัตราดอกเบี้ยมาที่สุด โดยการทำแบบนี้ ยอดต้นจะยังคงอยู่ไม่ลดลงไป แต่ถึงแม้ยอดต้นจะไม่ลด คะแนนเครดิตของคุณก็จะยังไม่เสีย รายงานในเครดิตบูโรก็จะยังคงขึ้นคำว่า “ไม่ค้างชำระ” แล้วจึงนำเงินโบนัสที่ได้มาโปะหนี้ โดยวิธีนี้ เราขอแนะนำให้คุณทำในระยะสั้นเท่านั้น และไม่ขอแนะนำให้คุณทำหากคุณไม่มีเงินก้อนเข้ามาในเร็ว ๆ นี้ เพราะหนี้ที่คุณมีจะยังคงอยู่ไม่ลดลงไป เหมือนคุณจ่ายดอกเลี้ยงหนี้ไว้เรื่อย ๆ เท่านั้นเอง
8. ขายอะไรได้ให้ขายไปเลยเพื่อที่คุณจะได้มีเงินก้อนเข้ามาปลดหนี้ได้ โดยของที่จะขายควรขายของใช้ฟุ่มเฟื่อยที่ไม่มีผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของคุณ เช่น เครื่องแต่งกายแบรนด์เนม เครื่องประดับ หรือของที่ไม่จำเป็นต้องมีราคาแพงก็ใช้งานได้ เช่น โทรศัพท์มือถือราคาแพง แล้วซื้อโทรศัพท์ธรรมดามาใช้ไปก่อน ในส่วนของคอมพิวเตอร์ หากมันเป็นเครื่องมือหากินของคุณ หรือคุณสามารถสร้างรายได้เพิ่มจากมันได้ ให้เก็บเอาไว้ก่อนนะคะ อย่าเพิ่งตัดสินใจขายมันไป
9. วิธีปลดหนี้ ไม่ใช่การบนบานศาลกล่าว หรือตีอกชกหัวโทษโชคชะตาฟ้าดินอะไรทั้งนั้น (เพราะทุกสิ่งเกิดขึ้นเพราะตัวคุณเองล้วน ๆ) แต่การจะทำให้คุณปลดหนี้ได้คือการมีรายได้ ดังนั้น หารายได้พิเศษเสริมถือเป็นทางเลือกที่คุณต้องทำ เพื่อนำเงินมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน คุณจะได้ไม่ต้องไปหยิบยืมเงินจากใครในกรณีที่เงินไม่พอใช้ บางทีงานเสริม อาจจะทำเงินให้คุณได้มาก จนคุณสามารถปลดหนี้ได้เร็วขึ้นก็ได้นะคะ
ขอขอบคุณแหล่งที่มาของเนื้อหา
แชร์บอกให้เพื่อนคุณรู้