วันนี้แอดมินได้มีโอกาสไป เขาช้างเผือก ซึมซับบรรยากาศการเดินบนสันเขาที่มีวิวทิวทัศน์สวยงามไม่แพ้ใครในประเทศไทย
ซึ่งตัวแอดเองก็ไม่ได้มีการเดินป่ามากมาย จึงอยากมาแชร์ประสบการณ์สำหรับผู้ที่อยากชื่นชมเทือกเขาบ้าง
รายละเอียดเกี่ยวกับเขาช้างเผือก
- เขาช้างเผือกมีความสูงที่สุดของอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ 1,249 เมตร มีระยะทางเดินเท้ากว่า 8 กิโลเมตร รองรับนักท่องเที่ยวได้วันละ 60 คน **ต้องจองล่วงหน้าเท่านั้น**
-ไม่มีไฟฟ้า และน้ำดื่ม พร้อมไม่มีเครื่องอำนวยความสะดวกใดๆ (ตัดขาดกับโลกภายนอก เตรียมสัมผัสธรรมชาติเต็มๆ)
-ปฏิบัติตามกฏระเบียบของเจ้าหน้าที่ของอุทยานที่คอยดูแลเราอยู่ตลอดการเดินทาง
เริ่มด้วยเขาช้างเผือกจะเปิดเพียง 2-3 เดือนต่อปี เริ่มจากช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน ถึงปลายเดือนมกราคม ทริคคือเราไปตามเฟซบุ๊คของอุทยาน ตามลิงค์นี้เลยแอดมินจัดให้ Facebook อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ
โดยทางอุทยานจะประกาศล่วงหน้าไม่เกินอาทิตย์ และกฏระเบียบแต่ละปีไม่เหมือนกัน อย่างปีนี้ที่แอดไปมา อุทยานเปิดวันที่ 24 พ.ย. 2561 ถึง 31 ม.ค. 2562 อนุญาติให้ขึ้นเขาช้างเผือกได้วันละ 60 คน โทรจองได้เท่านั้นมีสองเบอร์และไม่เกิน 7 วันล่วงหน้า จองสูงสุดได้ไม่เกิน 5 คนต่อหนึ่งกรุ๊ป เตรียมชื่อนามสกุล เบอร์โทรศัพท์ เลขที่บัตรประชาชนไว้เลย เพราะบอกเลยโทรติดยากจริงๆ แอดโทรเป็นร้อยสาย โชคดีแอดโทรติดและวันที่เป็นวันธรรมดากฏระเบียบมีการเปลี่ยนแปลงได้ทุกปี ยังไงก็ดูรายละเอียดที่เฟซบุ๊คอุทยานกันได้เลย แอดมินอวยพรขอให้โทรติดก่อนเป็นด่านแรก
อุปกรณ์แนะนำ ที่อุทยานมีเต๊นท์ เบาะปูรอง และถุงนอนให้เช่า เราใช้บริการลูกหาบแบกให้เราได้ 30 กิโลราคาประมาณ 1,300 บาท เป็นการสร้างรายได้ให้กับชุมชนด้วย
สิ่งที่ควรนำไปเอง มีไฟฉาย น้ำเปล่า อาหารสำเร็จรูป ทิชชู่เปียกสารพัดประโยชน์ เพราะบนเขามีเพียงส้วมหลุม ของใช้ส่วนตัวตามอัธยาศัย
ในเส้นทางการเดินทางค่อนข้างชัน แนะนำให้นำไม้เดินเขาเพื่อช่วยทุ่นแรงด้วยถ้ามี ไม้มีขายทั่วไป อันละ 300 บาทแล้วแต่คุณภาพ
การแต่งกาย ควรใส่เสื้อแขนยาวหรือสวมปลอกแขนป้องกันรังสียูวี เนื่องจากแดดบนเขาค่อนข้างแรง บวกกับใบไม้มีความคม กางเกงขายาว รองเท้าหุ้มส้น หมวก จากประสบการณ์ตรงแอด..ดื่มน้ำเปล่าประมาณ 2 ขวดและของกินขนบขบเขี้ยวช่วงเดินขึ้น ใช้เวลา 4-6 ชั่วโมง และน้ำเปล่า 4 ขวดใหญ่บนที่พักและสำหรับรีฟิลขวดน้ำขาลงเขา(ลูกหาบแบกขึ้นมาให้) ขาลงสบายหน่อยเดิน 3-4 ชั่วโมง
การเดินทาง
แอดใช้วิธีออกจากกรุงเทพฯ ประมาณเที่ยงคืน แล้วจอดพักนอนเอาแรงที่ ปตท. ทองผาภูมิ ซึ่งเป็นปั๊มสุดท้ายก่อนถึงอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ตื่นมาสัก 7 โมงเช้า
เดินทางไปรายงานตัว รับบัตรขึ้นเขาช้างเผือก ทำประกันอุบัติเหตุ และเช่าอุปกรณ์กับทางอุทยาน มีบริการอาหาร ที่พัก และร้านค้าสวัสดิการ กินอาหารเช้าแล้วเอาของขึ้นรถ ขับไปต่อที่บ้านปิล๊อก เพื่อที่จะมาพบเจ้าหน้าที่ของอุทยานและลูกหาบ เดินเที่ยวเล่นในตลาดอีต่องระหว่างรอเจ้าหน้าที่พอออกเดินทาง
จากตลาดอีต่อง เดิน 20 นาทีผ่านทางลาดชัน จะไปถึงจุดตรวจบัตรขึ้นเขาช้างเผือก ซึ่งเป็นระยะทางที่ดีสำหรับการวอร์มอัพร่างกายก่อนที่จะสัมผัสกับเส้นทางขึ้นเขาช้างเผือกอย่างแท้จริง
ระหว่างทาง ช่วงแรกจะเป็นทางเดินผ่านป่ารก ทางเดินไม่ยากลำบากมาก เดินมาสักหนึ่งชั่วโมงจะพบจุดพักแรก (ความสูงจากระดับน้ำทะเล 897 เมตร)
จากจุดพักแรก แอดรู้สึกว่าเราเริ่มเดินทางสู่ยอดเขาลูกเตี้ยๆแล้ว ซึ่งระหว่างทางจะไม่มีต้นไม้ให้ร่มเงา หมวกและเสื้อแขนยาวจะเป็นสิ่งที่มีประโยชน์มากในเวลานั้น
เดินประมาณ 20 นาทีจะถึง จุดพักที่สอง(ความสูงจากระดับน้ำทะเล 972 เมตร) ทางจะเริ่มสูงชัน บางช่วงต้องใช้เชือกในการช่วยไต่ขึ้นเนิน ถ้ามีไม้เดินเขาจะทุ่นแรงเลย เดินอีกสักพักจะถึงจุดพักที่ชื่อว่า หุบชะนี ทางเดินหลังจากนี้จะชันขึ้นและไม่ค่อยมีร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ แอดแนะนำให้พักดื่มน้ำ กินขนม เติมพลังตรงนี้ จากหุบชะนีเราสามารถมองเห็นลานกางเต๊นท์และยอดเขาช้างเผือกได้จากตรงนี้
เดินไปพักใหญ่ๆ จะเจอจุดพัก เขาช้างน้อย(ความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,062 เมตร) ซึ่งมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามมาก แต่การขึ้นเขาลูกนี้ ไม่มีต้นไม้ใหญ่ ลมแรง และมีความลาดชันสูง ต้องใช้เชือกดึงตัวเองขึ้นไป งานนี้กำลังแขนต้องมา
เราจะมาถึงเขาลูกช้าง เก็บภาพสัมผัสบรรยากาศกันสักนิด... ให้มีแรง แต่!!!
ที่ว่าขึ้นมาถึงยอดเขาชันแล้ว ทางลงยิ่งชันกว่าอีก ดูจากเชือกที่ผูกไว้กับต้นไม้ >>> หายไปเลยในแนวดิ่ง
หลังจากผ่านเขาลูกช้างมาได้ เราก็จะพบลานกางเต๊นท์ทันที พักตามอัธยาศัย ระหว่างรอลูกหาบเราควรรับประทานอาหารและเตรียมตัวร่างกายขึ้นสันคมมีด ซึ่งลูกหาบจะบริการกางเต๊นท์ให้นักท่องเที่ยว
ระหว่างทางมีสัญญาณมือถือและอินเทอร์เน็ตเกือบตลอดทางเลย ใครอยากอัพรูปสวยๆก็ทำได้เลย ระหว่างรอ
ประมาณบ่าย 3 โมง เจ้าหน้าที่จะพานักเดินทางขึ้นยอดเขาช้างเผือก และจะพากลับมาที่จุดกางเต๊นท์ก่อนพระอาทิตย์จะลับขอบฟ้า
เดินไต่ความสูงไปสักระยะ เราจะได้พบกับ ความท้าทายแรกของเขาช้างเผือก นั่นก็คือ สันวัดใจ บอกเลยคนกลัวความสูงจะได้วัดใจกันตรงนี้แน่นอน ต้องดึงตัวเองโดยเชือกขึ้นไป แอดแนะนำเอาถุงมือติดไปด้วย
ผ่าน สันวัดใจ ด่านต่อไปเราต้องผ่าน สันคมมีด จะรู้เลยทำไมถึงมีชื่อนี้ เป็นเพราะความกว้างของทางเดินแคบมาก และสองข้างทางเป็นเหวลึก วิวระหว่างทางมีความสวยงามมาก เดินสักชั่วโมงจากจุดกางเต๊นท์ เราก็จะพิชิตยอดเขาช้างเผือก(ความสูงจากระดับน้ำทะเล 1249 เมตร) ซึ่งวิวบนยอด มันทำให้แอดหายเหนื่อยทันที
มุ่งหน้าไปยัง ยอดเขาช้างเผือก จุดมุ่งหมายเพื่อพิชิตยอดเขาให้ได้... และจะได้ชื่นชมพระอาทิตย์ตกดินในดินแดนแห่งนี้...
เก็บภาพจากยอดเขาช้างเผือกที่สูงที่สุดในอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ในยากพระอาทิตย์กำลังตกดิน ... บรรยากาศมันก็จะประมาณนี้
ชื่นชมธรรมชาติบนยอดเขาจนหนำใจ เราก็ต้องกลับก่อนพระอาทิตย์ดีกว่า ตอนมองเห็นทางยังยากเลย พอถึงลานกางเต๊นท์ ลูกหาบจะมีบริการต้มน้ำร้อน(แต่เราต้องมีน้ำให้เค้านะ) ถ้าเราต้องการทานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป หรือดื่มกาแฟ ที่จุดกางเต๊นท์สามารถเห็นดวงดาวค่อนข้างชัดเจน ราตรีสวัสดิ์
ส่วนอาหารแนะนำอะไรที่ง่ายๆ เปิดกินเลย... แล้วอย่าลืมเก็บขยะไปทิ้งด้วยนะ... (ภาพอาหารนำไปจริง ไม่มีสปอนเซอร์ หากใครรู้จักก็แนะนำให้ทางสินค้ามาจ่ายให้แอดมินด้วยนะ ขอบคุณล่วงหน้า)
รุ่งเช้าอย่าลืม ตื่นมาเก็บบรรยากาศพระอาทิตย์ขึ้นจากลานกางเต๊นท์ รับรองประทับใจ สำหรับนักเดินทางที่โชคดีอาจจะได้เห็นทะเลหมอกด้วย แอดขอให้ลูกหาบช่วยต้มน้ำดื่มกาแฟตอนเช้า (น้ำเรานะ ต้องกะเผื่อด้วย) ลูกหาบจะเก็บเต๊นท์ ถุงนอน ขยะ และขนสัมภาระลงจากเขาให้เรา ซึ่งเราจะพบลูกหาบ ณ จุดรวมพลแรกที่ปิล๊อกอีกที เราจะชำระค่าบริการลูกหาบที่นั่นด้วย
ซึ่งขาลงจะเร็วกว่าขาขึ้นโดยใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง
ไอเท็มลับ คือ ร้านค้าแรกที่เจอหลังจากลงเขา มีขายโค้กวุ้น แนะนำว่าต้องห้ามพลาด สำหรับผู้ที่ต้องการอาบน้ำก่อนเดินทางกลับ ที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิมีบริการไม่มีค่าใช้จ่าย
ส่วนที่ตลาดปิล๊อกมีบริการร้านอาหาร ของที่ระลึก และที่พักมากมาย จากจุดนี้บางท่านไปเที่ยว น้ำตกจ๊อกกะดิ่น
แถมท้ายด้วย ร้านอาหารครัวแปดริ้ว ที่แอดไม่ได้ดูรีวิวก่อนไป แต่ก็ประทับใจอีกแล้ว สั่งเลยอร่อยทุกอย่าง เลยเก็บภาพมาให้ดูกัน
สรุปแบบกระชับสไตล์ Review Promote กับ เขาช้างเผือก อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ
- สิ่งแรกที่ต้องทำ คือ ติดตามการประกาศของทางอุทยานว่าเริ่มช่วงไหน และโทรให้ติดก่อนเลย (ประสบการณ์ส่วนตัว โทรติดยากมากกกกก)
- การเดินทาง สัมภาระ และการแต่งกาย เตรียมตัวให้พร้อม... แนะนำไปแล้วบนรีวิวด้านบน
- ร่างกายขอให้มีความพร้อม เพราะการเดินทางในบางส่วนต้องใช้พละกำลัง และอากาศร้อนมากกกก
- ธรรมชาติ สุดๆ รับรองมาแล้วได้เสพเต็มที่ บอกคำเดียวว่าคุ้มมากกก
- ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุ
- ลูกหาบ สำคัญมาก กะของที่จะนำขึ้นให้ดีเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย
หากใครอยากสัมผัสธรรมชาติ และเปิดประสบการณ์ เขาช้างเผือก นับว่าเป็นอีกหนึ่งที่ในตำนาน และน่าหลงไหลสุดๆ แต่ขึ้นเขายากแล้ว การโทรติดเพื่อนัดวันนั้นยากกว่า... เนื่องจากจำกัดคนต่อรอบเพียง 60 คน ดังนั้น... ขอให้โชคดีและมาเสพธรรมชาติแบบนี้กันนะจ๊ะ..
ส่วนรีวิวหากมีส่วนใดตกหล่น หรือผิดพลาดใดๆ แอดมินขออภัยด้วยนะ... เขียนรีวิวเล่าตามประสบการณ์จริง และมีความคิดเห็นส่วนตัว ติดตามเพจ Review Promote ได้ทั้งบน Facebook Fanpage : Review Promote และ เว็บไซต์ www.reviewpromote.com ไว้ติดตามกันต่อไปว่าทีมงานจะนำอะไรมารีวิวต่อไป
อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ
ตู้ ปณ.18 ตำบลปิล๊อก อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี 71180
เบอร์ติดต่อ 034510979
แชร์บอกให้เพื่อนคุณรู้