เปิดทริปเที่ยวอยุธยาแบบไม่เที่ยววัด ... แอดมินเลยหาข้อมูลที่ท่องเที่ยวน่าสนใจแต่ไม่ใช่วัดในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงได้มาเจอสถานที่แห่งนี้ หมู่บ้านญี่ปุ่น
แล้วมันจะเป็นอย่างไร... ขอเกริ่นคร่าวๆ แบบย่อๆ ดังนี้
สถานที่แห่งนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่แสดงประวัติศาสตร์ของชนชาวญี่ปุ่น ที่เริ่มเข้ามาค้าขายและปฏิสัมพันธ์กับอาณาจักรอโยธยา ซึ่งในเวลานั้นถือว่าเป็นอาณาจักรที่รุ่งเรืองมากๆ เป็นเมืองท่าสำหรับการค้าขายของชาวต่างประเทศ (ช่วงปลายพุทธศตวรรษที่ 21 )
โดยในหมู่บ้านนั้นสันนิษฐานว่ามีชาวญี่ปุ่นอยู่ 3 กลุ่มด้วยกัน คือ พ่อค้า โรนินหรือนักรบญี่ปุ่นที่เข้ามาเป็นทหารอาสาญี่ปุ่นในอยุธยา และชาวญี่ปุ่นที่นับถือศาสนาคริสต์ เดินทางออกจากญี่ปุ่นเพื่อเสรีภาพในการนับถือศาสนา
ทั้งหมดข้างต้นที่เกริ่นเป็นเพียงคร่าวๆ ... แต่ข้อมูลที่สนุกและรายละเอียดหาชมได้ในที่แห่งนี้ หมู่บ้านญี่ปุ่น (เดี๋ยวเล่าหมดจะหาว่าสปอย) ว่าแล้วแอดมินขออาสาพาไปเที่ยวรอบๆ ก่อนดีกว่า...
การเดินทางตามมาเลยง่ายๆ Google Map : https://goo.gl/maps/vv7JbLUmFQ4P9nuy7
ข้อสังเกตง่ายๆ อยู่ริมถนนขับรถดีๆ ระวังเลย... พื้นที่ไม่ได้ใหญ่ และมีต้นไม้ใหญ่ปกคลุมอาจทำให้เลยได้ง่าย มีที่จอดรถบริการแต่ไม่เยอะมาก (แต่ที่ไปมีรถไปเรื่อยๆ น่าจะไม่เยอะมาก)
บริเวณจอดรถอยู่ทางขวามือ (หันหน้าเข้าตามภาพ) และที่จำหน่ายตั๋วอยู่ทางซ้าย..
เมื่อจอดรถเรียบร้อยแล้ว ไปซื้อบัตรมีค่าธรรมเนียม
- บุคคลทั่วไป 50 บาท
- นักเรียน นักศึกษา 20 บาท
โดยตั๋วจะมีเป็นลักษณะบัตรฉีก 2 พิพิธภัณฑ์ ให้เริ่มต้นที่ พิพิธภัณฑ์ที่ 1 ซึ่งไปทางเดินทางซ้าย (หันหน้าเข้าประตู) ก่อน
แต่ในระหว่างทางจะมีตกแต่ง และกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นตลอดทาง...
แผนผังของสถานที่หมู่บ้านญี่ปุ่น ... บรรยากาศโดยรอบมีต้นไผ่สูง และต้นไม้ร่มรื่นย์มากๆ ...
จุดหมายแรก คือ พิพิธภัณฑ์ส่วนที่ 1 เป็นอาคารผนวก ศูนย์ศึกษาประวัติศาสตร์อยุธยา... มีเจ้าหน้าที่คอยแจ้งและต้อนรับอยู่ด้านหน้า....
ภายในมีบริการเช่าชุดกิโมโน และชุดประจำชาติญี่ปุ่นด้วย....
ศูนย์แห่งนี้มีลักษณะพิเศษแตกต่างจากพิพิธภัณฑ์อื่น คือ การพยายามสร้างภาพชีวิต สังคม วัฒนธรรมในอดีตให้กลับมามีชีวิตขึ้นใหม่ด้วยข้อมูลการวิจัย
เมื่อเข้าไปห้องแรก จะพบเจอภาพด้านหลังที่เป็นภาพวาดจากประวัติศาสตร์ของ อาณาจักรอโยธยา ว่ามีความรุ่งเรืองขนาดไหน...
ภายในพิพิธภัณฑ์จะมีข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของชาวญี่ปุ่น สินค้า การค้าขาย ข้อมูลการเดินเรือ ที่อ้างอิงจากประวัติศาตร์ให้ศึกษากัน
สินค้าส่งออก ของสมัยนั้น ... รูปแบบของไห หม้อ รวมถึงเครื่องหนัง งาช้าง
เหล้าสาเก และสิ่งของช่วงประวัติศาสตร์ ถูกวางจัดเรียงแสดงในตู้ต่างๆ ...
เมื่อเราสำรวจข้อมูลในห้องนี้เต็มที่แล้ว ... แนะนำให้เข้าห้องชมวีดีทัศน์ที่แสดงข้อมูลได้ชัดเจนยิ่งขึ้น (อันนี้แนะนำต้องเข้า) จะทำให้ทราบถึงข้อมูลที่เห็นภาพได้ดียิ่งขึ้น และสนุกด้วยเป็นภาพเคลื่อนไหว
ที่สำคัญจะทำให้เรารู้จัก เรื่องราวของ ยามาดะ นางามาซะ ขุนนางชาวญี่ปุ่นในราชสำนักอยุธยา ที่มีบทบาทสำคัญในสถานที่แห่งนี้... ซึ่งจะมีรูปปั้นของท่านอยู่ภายนอกริมน้ำด้วย
บรรยากาศภายนอกที่โอบล้อมด้วยต้นไม้ใหญ่ .... ร่มรื่นย์มากๆ
เมื่อเดินมาเรื่อยๆ จะสะดุดตากับสิ่งนี้ ... มีความเป็นญี่ปุ่น และมีมนต์เสน่ห์ทำให้แอดมินต้องเข้าไปในประตูนี้..
ตามมาดูกันว่าภายในมีอะไร...
ภายในมีสวนหินที่สวยงาม และตกแต่งเป็นสไตล์ญี่ปุ่นมากๆ ... ที่สำคัญ สามารถนั่งเล่นเพื่อชมสวนพร้อมแม่น้ำเจ้าพระยาได้อย่างดี
ชมสวนญี่ปุ่น ริมน้ำเจ้าพระยา เก๋ๆ
สวนญี่ปุ่น แห่งนี้ออกแบบโดยนักออกแบบสวนชาวญี่ปุ่นชื่อ นายฮิโรฮิสะ นาคาจิมา เป็น ผู้ที่มีชื่อเสียงและมีผลงานระดับนานาชาติ รูปแบบเน้นความเป็นสวนญี่ปุ่นแท้ที่ดูสง่างาม สงบ เยือกเย็น มีองค์ประกอบที่สำคัญ ได้แก่ ศาลาญี่ปุ่น สำหรับนั่งชมทัศนียภาพของแม่น้ำเจ้าพระยา สวนญี่ปุ่นแห่งนี้สะท้อนให้เห็นทัศนียภาพของแม่น้ำและทะเลของประเทศญี่ปุ่น ช่วยให้ผู้มาเยี่ยมได้รู้จักวัฒนธรรมญี่ปุ่น
พื้นที่ค่อนข้างเล็ก แต่แน่นๆ ด้วยต้นไม้ที่ช่วยให้ร่มรื่นย์ และทำให้แอดมินรู้สึกว่าไม่ได้อยู่ประเทศไทยได้เลย ...
ต้นไม้ตกแต่ง และการจัดสวน เป็นสไตล์ญี่ปุ่นชัดเจน
เมื่อเดินมาด้านนอก จะมีลานกว้างๆ ริมน้ำ พร้อมที่นั่งใต้ต้นไม้ใหญ่ ที่ให้ร่มเงาได้อย่างดี
นั่งแคร่ที่ทำจากไม้ไผ่ ได้บรรยากาศอีกแบบหนึ่ง ...
รูปปั้นของท่าน ยามาดะ นางามาซะ หรือ ออกญาเสนาภิมุข มีความสำคัญอย่างไร? และเรื่องราวที่น่าสนใจอย่างไร? สามารถไปชมพิพิธภัณฑ์ที่ 1 ที่แสดงวีดีทัศน์เล่าเรื่องได้อย่างดี (แอดมินรับรองว่าสนุก และทำให้อินกับประวัติศาตร์ดี)
ต่อมาไปพิพิธภัณฑ์ส่วนที่ 2 กันต่อเลย... เพื่อไปพบกับ ท้าวทองกีบม้า (ใครดูละครบุพเพสันนิวาส น่าจะต้องอิน)
หุ่นขี้ผึ้งของ ท้าวทองกีบม้า (มารี ดอญา กีมาร์ เดอ ปีนา) ซึ่งเป็นชาวอยุธยาลูกครึ่งเชื้อสายโปรตุเกส-ญี่ปุ่น อาศัยอยู่ในหมู่บ้านโปรตุเกส ได้สมรสกับ คอนสแตนติน ฟอลคอน หรือ ออกญาวิชาเยนทร์ เสนาบดีกรมท่าในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช กระทั่งในช่วงปลายของชีวิต เธอเข้ารับราชการจนได้ตำแหน่งท้าวทองกีบม้า หัวหน้าพนักงานวิเสทกลาง (ครัว) ดูแลของหวานแบบเทศ และนำของหวานโปรตุเกสมาเผยแพร่ในกรุงสยาม เป็นต้นตำรับขนมตระกูลทอง อย่างทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง
มีส่วนของห้องจัดแสดง สามารถเข้าชมวีดีทัศน์ได้อีกด้วย....
รีวิวแบบกระชับ หมู่บ้านญี่ปุ่น (Japanese Village) ตามสไตล์ Review Promote
- ศูนย์แห่งนี้ มีลักษณะพิเศษแตกต่างจากพิพิธภัณฑ์อื่นคือ การพยายามสร้างภาพชีวิต สังคม วัฒนธรรมในอดีตให้กลับมามีชีวิตขึ้นใหม่ด้วยข้อมูลการวิจัย
- ภายในสถานที่ ร่มรื่นย์ มาก ๆ นั่งชิวได้สบายๆ
- มีการเล่าเรื่องราวที่สนุกไม่น่าเบื่อ
- สำหรับส่วนที 1 จะมีข้อมูลเยอะมากๆ แต่ในส่วนที่ 2 จะไม่ค่อยมีอะไร นอกจากที่เป็นไฮไลน์ซึ่งเป็น หุ่นขี้ผึ้งของ ท้าวทองกีบม้า
หากใครไปเที่ยวจังหวัดอยุธยา และไม่อยากเที่ยววัด แนะนำไปเที่ยวชมประวัติศาสตร์และไปนั่งชมธรรมชาติที่ หมู่บ้านญี่ปุ่น (Japanese Village) กันได้เลย ระยะเวลาในการเที่ยวน่าจะประมาณ 1.30 ชม น่าจะรอบแล้ว แต่ยังไม่รวมกับการนั่งชมบรรยากาศ และชื่นชมสวนญี่ปุ่นที่มีเสน่ห์มากๆ อาจทำให้เวลานั้นผ่านไปอย่างรวดเร็วได้
ที่อยู่และเบอร์ติดต่อ
ตำบลเกาะเรียน อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 13000
โทรศัพท์ : 035 - 259 867
เว็บไซต์ : http://www.thai-japanasso.or.th/ceremony2e.htm
วันและเวลาทำการ
วันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 09.30 - 18.00 น.
วันเสาร์ - อาทิตย์ และนักขัตฤกษ์ เวลา 08.30 - 18.00 น.
ค่าเข้าชม
คนไทย 50 บาท / เด็ก 20 บาท
ต่างชาติ 50 บาท
แชร์บอกให้เพื่อนคุณรู้