มาเปลี่ยนบรรยากาศให้ฟิน กับการไปเที่ยวสวนสัตว์แบบขอแนบชิดแบบสุดๆ ... ดูไปดูมา ที่นี่ สวนสัตว์เปิดเขาเขียว น่าจะตอบโจทย์สุด ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มาก ค่าใช้จ่ายประหยัด แต่ได้ใกล้ชิดเจ้าถิ่นอย่างสุดๆ ... ซึ่งอกหักจากสวนสัตว์ดุสิตที่อดีตไปบ่อยมาก ตอนนี้หมดสิทธิ์แล้วจ้าาาา...

รีวิวนี้เป็นการเดินทางแบบขับรถยนต์ไปเองนะจ๊ะ ... โดยเดินทางตามพี่ Google : https://goo.gl/maps/Jn4voEMaQCFuqtQd6 โดยแนะนำเดินทางแต่เช้าเพราะมีรอบการแสดงโชว์เป็นรอบๆ ไม่งั้นจะทำให้เก็บแต้มไม่ครบ

โดยการเดินทางจากกรุงเทพฯ น่าจะใช้เวลาประมาณ 1.30 - 2 ชั่วโมง เท่านั้น.... 

การรีวิวครั้งนี้จะเขียนแต่ที่แวะเวียนเข้าไปชมเท่านั้น ซึ่งไม่ครบทั้งหมดอย่างแน่นอนเพราะมีหลายส่วนมาก ๆ และเหตุการณ์ที่พบเจอในระหว่างเที่ยวชม สวนสัตว์เปิดเขาเขียว แห่งนี้เท่านั้น ...

เมื่อไปถึงจะพบกับด้านเก็บค่าผ่านประตูโดยแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ผู้เข้าชม และพาหนะ

อัตราค่าเข้าชม : 

ผู้ใหญ่ 150 บาท 

เด็ก (สูงไม่เกิน 135ซม) 30 บาท 

ข้าราชการ, นักเรียน, นักศึกษา (แสดงบัตร) 70 บาท 

ผู้สูงอายุ 60ปีขึ้นไป คนพิการ ภิกษุ-สามเณร ฟรี 

ค่าธรรมเนียมพาหนะเข้าสวนสัตว์

รถจักรยานยนต์ 40 บาท 

รถยนต์ 80 บาท 

รถบัส 100 บาท 

ซึ่งเมื่อชำระเงินแล้ว บริเวณด้านหลังประตูนี้จะมีร้านค้า ที่มีผลไม้แบ่งจัดเป็นเซตจำหน่ายใส่ถุง ... ที่เห็นเป็นพวกข้าวโพด แครอท ถั่วฝักยาว ฯลฯ  ซึ่งแอดมินก็งง และไม่ได้แวะใดๆ (แต่เดี๋ยวมีคำตอบ ในรีวิวนี้อ่านกันต่อ...)

เนื่องจากเป็นสวนสัตว์เปิด ... จึงอาศัยการขับรถเข้าไปชมสัตว์ต่างๆ ตามทางที่กำหนดไว้ได้เลย ... และทำการจอดรถในที่กำหนดเพื่อเดินชมได้ในระหว่างทาง

 และมีข้อกำหนดก่อนเข้าชมสวนสัตว์ดังนี้ (ตามภาพประกอบ)

ภาพประกอบจากเว็บไซต์ http://www.khaokheow.zoothailand.org

บรรยากาศถือว่าร่มรื่นย์มากๆ  และที่สำคัญจุดแรกก็ตื่นตา ที่ไม่มีกรงใดๆ และเห็นเจ้าถิ่นโหนต้นไม้ และโพสท่าให้ถ่ายรูปอีกต่างหาก ... มีแค่คูน้ำเล็กๆ เท่านั้น

เรียกได้ว่า ตื่นตาสำหรับคนไปครั้งแรกแบบแอดมิน ...

ได้พบกับ ค่าง 5 สี ที่ถือว่าเป็นสัตว์ที่หายากและสวยงามมากๆ ....

ทางเดินตามจุดต่างๆ อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ... เด็กๆ ดูเพลินเลยทีเดียว ..

พร้อมต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงาตลอดทั้งทาง ... 

มาเยือนถิ่นฮิปโป ... ดูโล่งสบายและชัดเจน

บรรยากาศดีมากๆ เห็นภาพครอบครัวดูสัตว์กันอย่างมีความสุข ...

ป้ายบอกทางสำหรับจุดต่างๆ ... ให้สามารถเดินกันได้อย่างสนุก แต่อาจเหนื่อยนิดที่ต้องเดินย้อนกลับมาเอารถ (อันนี้โดนกับตัว... เตือนไว้ก่อน)

เดินกันไปยังดินแดนแพนกวิน เพื่อไปชมเพื่อนๆ ในดินแดนหนาวเย็นของเรา ...

มาจุดไฮไลน์ของที่นี่ สวนละมั่ง ... ที่มีการให้อาหารแบบป้อนกันถึงปาก แต่ . . . . แต่ . . .

ภาพแรกที่เห็น นักท่องเที่ยวมากมายให้อาหารกันอย่างสวยงาม...

แอดมินอยากลองบ้าง... เหลียวไปเห็นจุดบริการจำหน่ายหญ้ารีบไปซื้อและนำไปให้ ปรากฏว่า โดนเมินและโดนเท ไปต่อหน้าต่อตาทุกตัวในดินแดนแห่งนั้น เพราะว่ามันเบื่ออาหารจำเจจ้า... T-T

อาหารที่เจ้าถิ่นแห่งนี้ (สวนละมั่ง) ต้องการคือ อะไรก็ได้ที่ไม่ใช่หญ้า 

เจ้าถิ่นไม่ปลื้มสนใจแต่นักท่องเที่ยวที่นำถุงใส่ผลไม้มาให้ ทำให้ถึงบางอ่อ .... มันถือถุงผลไม้จากทางด้านหน้าจำหน่ายนี้เอง !!!  งานนี้แอดมินต้องเก็บหญ้าที่ซื้อไว้ก่อน พร้อมเลียแผลใจที่โดนเท...

งานนี้เลยขอแอบถ่ายพี่ๆ เขาแล้วกัน ....

#ชีวิตต้องก้าวเดินต่อไป ... เก็บกองหญ้าที่ซื้อเข้าที่รถ และไปต่อที่ถิ่นพี่ยีราฟ ... 

โดยส่วนตัวคิดว่ายีราฟน่าจะกินหญ้าได้ แต่ No no no  .... ไม่ได้จ้า! ต้องซื้อกิ่งโดยเฉพาะ ห้ามให้หญ้า (เก็บกองหญ้าที่โดนเทอีกรอบ) สอบถามจากเจ้าหน้าที่จำหน่ายอาหารยีราฟให้ความรู้มา

อาหารของพี่ยีราฟเป็นกิ่งไม้ที่มีใบไม้ยาวๆ ... 

วิธีการให้อาหาร ยื่นกิ่งไม้และกำให้แน่น เพราะเดี๋ยวพี่เขาจะรูดกินเองนะจ๊ะ อย่าปล่อยไป!

เอาง่ายๆ ยื่นแล้วถือให้มั่น เดี๋ยวพี่เขาจัดการเอง...

ขยับความสนุกกันไปต่อที่ Safari ซึ่งทางเข้าอยู่ข้างๆ ที่ป้อนอาหารยีราฟ ... 

ภายในมีสัตว์มากมายที่มาจากดินแดนแอฟริกา ... แอดมินความรู้ไม่แน่น ขอเก็บภาพอย่างเดียวแล้วกัน ...

จุดไฮไลต์ที่น่าสนใจ การให้อาหารเสือแนะนำว่าต้องมาลอง ... สบตากับพี่เสือใกล้ๆ 

หากพี่เสือตะบบ ไม่ต้องตกใจ กรงนี้แน่นหนามาก ... โดนตะบบจริงมาแล้วไม่เป็นอะไร (แต่คนยืนถ่ายภาพ Shock นิดดดดดด)

มาอีก 1 จุดไฮไลน์ คือ การชมช้างว่ายน้ำ ... มาเป็นรอบๆ ไปตรวจสอบรอบให้ชัดเจนและมาให้ทัน ... ส่วนที่จอดรถก็จะต้องหาด้านหน้านิดรับรองว่ามีแน่ แต่อาจเดินไกลนิดหากมาใกล้ช่วงแสดง ...

บริเวณด้านนอกสามารถให้อาหารช้างได้... (แต่ก็ยังไม่ใช่หญ้าที่ซื้อไว้อยู่ดี)

เวลาผ่านไปเรื่อยๆ และการเดินทางยังไม่จบ จุดไฮไลน์ที่ต้องชม... ห้ามพลาด!!! คือ การแสดง Journey to the Jungle

" เป็นการแสดงว่าสัตว์แต่ละตัวมีการใช้ชีวิตและความสามารถอย่างไร ซึ่งหลายๆ อย่างก็ไม่เคยทราบจริงๆ " โดยมีเจ้าถิ่นผลัดกันออกมาแสดงให้ชมมากมาย ... 

เมื่อแอดมินชมเสร็จ ก็เหนื่อยกันพอสมควร แต่ขอแวะอีกที่ปิดท้าย คือ ออสเตเลีย โซน (Australia Zone) โดยจุดมุ่งหมายมาดูพี่จิงโจ้ และพี่โคอะล่า ...

สัตว์ในประเทศออสเตเลีย ได้มาอยู่ในโซนนี้น่าสนใจ ซึ่งอาจไม่คุ้นตาสำหรับชาวไทยนัก ... ถือว่าได้ประสบการณ์ดี

Hello พี่จิงโจ้ ...

เจอกับ พี่หมีโคอะล่า แต่นอนอยู่ เลยหาคลิปมาให้ดูกัน...

นักอีมู เป็นสัตว์อีกชนิดที่ถือว่าเป็นสัตว์ประจำชาติออสเตเลีย...

เมื่อเราเที่ยวสนุกกันในโซนออสเตเลียกันเสร็จแล้ว ... ตั้งใจจะกลับ พร้อมกับกองหญ้าที่โดนเท 

แต่ในระหว่างทาง ... เห็นเจ้าถิ่นจริงๆ เป็น กวาง...มาเดินไปมาอยู่บริเวณที่จอดรถ ทำให้ลองเดินเข้าไปให้กองหญ้าดูสิ...

เจ้าถิ่นรับคำเชิญของเราจริงๆ ... เอาจริงๆ มีตื่นคนย่องหนีหมด แต่มีเจ้าถิ่นตัวนี้ยังย่องมาหา 

ว้าวว ดีใจอย่างสุดซึ้ง พี่กวางเราเก็บจัดการให้หมดเลยจ้าาาาา ดีงาม...

สรุปแบบกระชับ สวนสัตว์เปิดเขาเขียว สไตล์ Review Promote

- ที่นี่บรรยากาศดีมากๆ 

- เดินทางจอดรถ เดินไปมา เผื่อแรงเดินย้อนกลับไปเอารถด้วย 

- นักท่องเที่ยวซื้อผลไม้มาเพื่อให้ละมั่งในสวนละมั่งจะได้เปรียบ ทางนั้นเขาเลือกกิน

- บางทีเห็นนักท่องเที่ยว นำอาหารไปให้สัตว์ในกรง อันนี้ไม่แนะนำเพราะมีป้ายติดห้ามชัดเจน

- เห็นป้ายห้ามให้อาหารลิงบนถนนที่วิ่ง แต่ก็ยังมีนักท่องเที่ยวให้ อันนี้อันตรายต่อคน และลิง อาจโดนรถชนได้

- เป็นสวนสัตว์เปิด มีสัตว์มาเดินเล่นเองตามธรรมชาติ พยายามอย่าแกล้งกัน

- ควรปฏิบัติตามกฏอย่างเคร่งครัด

- หากใครยังไม่เคยมา แนะนำให้มาสักครั้ง อาจต้องใช้เวลาเกือบทั้งวัน เอาจริงๆ ครึ่งวันแบบไม่หยุดก็หมดแรงแล้ว

หากใครไปมาแล้วก็มาคอมเมนท์ทักทายกันหน่อย อย่าลืมเข้าไปกด Like และติดตามเพจ Review Promote (คลิกเลย) จะได้มาสนุกกัน #เที่ยวเก่ง  #กินเก่ง #ReviewPromote