เชื่อว่าในเวลานี้ ใครไม่รู้จักฝุ่น PM 2.5 คงแทบจะไม่มี ยิ่งหากใครอยู่ในเมืองหลวงกรุงเทพฯ ด้วยแล้ว แสบตา คัดจมูก หายใจกันแทบไม่ทั่วท้อง บ้างคนถึงกับล้มป่วยกันเลยทีเดียว... ด้วยเหตุนี้หลายๆ คนจึงจำเป็นต้องมีเครื่องช่วยฟอกอากาศ เพื่อให้อากาศที่เต็มไปด้วยมลพิษนั้นปลอดโปร่ง ... ช่วยรักษาสุขภาพ และยืนอายุไปในตัว

ทีมงาน Review Promote จึงทำการไปสรุปฟังก์ชั่นของเครื่องฟอกอากาศ ที่มีอยู่ ณ ปัจจุบัน ว่ามีอะไรบ้าง เพื่อเป็นข้อมูลให้เพื่อนๆ ได้เลือกชนิดให้เหมาะกับสถานที่และการใช้งาน

หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่าเครื่องฟอกอากาศมีหลายประเภท แบ่งตามสถานที่ที่เหมาะแก่การนำไปใช้และฟังก์ชันต่าง ๆ ซึ่งเพื่อน ๆ ควรจะเลือกอย่างไร ตามอ่านได้จากด้านล่างนี้เลย

1. “แบบพัดลม” ติดตั้งง่ายและราคาย่อมเยา

ถ้าใครกำลังนึกถึงพัดลมที่หมุนพัดอยู่ที่บ้าน ลืมภาพนั้นไปได้เลยนะคะ เครื่องฟอกอากาศประเภทนี้ไม่ได้ทำงานอย่างนั้น แต่ใบพัดของเครื่องจะพัดเอาอากาศในห้องเข้าไป กลิ่น ฝุ่นละอองและแบคทีเรียต่าง ๆ จะถูกแผ่น/ไส้กรองด้านในดักจับเอาไว้ ก่อนที่จะปล่อยอากาศบริสุทธิ์กลับคืนออกมา

ส่วนใหญ่แล้วประเภทนี้มีให้เลือกหลายรุ่นและมักจะมีราคาถูก เหมาะสำหรับคนที่ต้องการซื้อติดหลาย ๆ ห้องในบ้าน แต่ยังมีข้อเสียอยู่เล็กน้อยนะคะ เพราะด้วยการทำงานของเครื่องมักทำให้เกิดเสียงดังสมควรต้องเลือกซื้อรุ่นที่มีโหมดลดเสียงรบกวน นอกจากนี้ยังต้องหมั่นถอดไส้กรองออกมาทำความสะอาดหรือซื้อเปลี่ยนตามอายุการใช้งานอีกด้วย ซึ่งค่อนข้างเสียเวลาและเปลืองแรง

2. “แบบไฟฟ้าสถิต” ไม่มีเสียงรบกวนและอายุการใช้งานนาน

เครื่องจะดักจับฝุ่นและสิ่งสกปรกในอากาศด้วยพลังไฟฟ้าสถิต ทำให้ไส้กรองที่อยู่ข้างในเสี่ยงต่อการอุดตันน้อยและยังทำงานได้เงียบไม่มีเสียงรบกวน มีประสิทธิภาพการใช้งานยาวนานกว่าแบบแรก แต่ข้อเสียคือมีราคาค่อนข้างแพง หากต้องการซื้อติดหลายห้องก็ต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก แต่เราอาจจะเลือกใช้เฉพาะในห้องที่ต้องการใส่ใจคุณภาพของอากาศมากเป็นพิเศษ เช่น ห้องเด็กอ่อนหรือห้องนั่งเล่น

3. “ระบบไอออน” ขนาดเล็ก เหมาะกับการใช้ในพื้นที่จำกัด เช่น ห้องน้ำหรือรถ

เครื่องฟอกอากาศระบบไอออนนี้เครื่องจะปล่อยไอออนลบออกไปฆ่าเชื้อโรคและดับกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ ทำให้อากาศบริสุทธิ์ขึ้น แต่ประเภทนี้จะมีเงื่อนไขการทำงานอยู่ที่ “ขนาด” กล่าวคือยิ่งเล็ก รัศมีของการทำงานก็จะน้อยลง จึงเหมาะสำหรับการใช้ในพื้นที่จำกัดเท่านั้น เช่น ห้องน้ำหรือรถ หากต้องการใช้ในพื้นที่กว้างให้เลือกแบบพัดลมหรือแบบไฟฟ้าสถิตที่มีฟังก์ชันปล่อยไอออนร่วมด้วยก็จะตอบโจทย์ได้ดีที่สุด

4. เลือกรัศมีการทำงานของเครื่องที่กว้างกว่าขนาดห้องจริง

ก่อนอื่นต้องอธิบายคำว่า “รัศมีการทำงาน” เสียก่อน เพราะส่วนใหญ่มักจะเข้าใจว่าเป็นขอบเขตที่เครื่องสามารถฟอกอากาศได้เพียงอย่างเดียว แต่จริง ๆ แล้วส่งผลต่อ “ความเร็ว” ในการฟอกด้วย ถ้าใครอยากเร่งให้อากาศบริสุทธิ์เร็ว แนะนำให้เลือกรุ่นที่มีรัศมีการทำงานมากกว่าขนาดของห้องนะคะ ในทางกลับกัน สำหรับคนที่ไม่ต้องการความเร็ว ให้เลือกรุ่นที่มีรัศมีการทำงานใกล้เคียงกับขนาดห้องของคุณก็เพียงพอแล้ว

หากเป็นเครื่องกรองอากาศที่ผ่านการทดสอบประสิทธิภาพจากฝั่งอเมริกาอาจจะแสดงค่าที่เรียกว่า CADR (Clean Air Delivery Rate) เป็นตัวบอกประสิทธิภาพในการฟอกอากาศว่าเครื่องนั้น ๆ ดีเด่นในการกรองอากาศประเภทไหน (เกสรดอกไม้, ควันบุหรี่, ฝุ่นละออง) และผลิตอากาศบริสุทธิ์ได้ปริมาณเท่าไหร่ต่อนาที โดยที่ยิ่งมีค่ามากยิ่งดี

5. ถ้า “ค่า Air Flow มาก” เครื่องก็จะฟอกอากาศได้ไว

ค่า Air Flow หรือค่าความเร็วลม คือ ปริมาณสูงสุดของอากาศบริสุทธิ์ที่เครื่องสามารถปล่อยออกมาได้ต่อครั้ง ถ้ายิ่งมีค่ามาก เครื่องก็สามารถฟอกอากาศได้ไว ทำให้คุณสามารถสูดอากาศบริสุทธิ์ได้เร็วขึ้น

ด้วยสภาพอากาศร้อนอบอ้าวของเมืองไทย เพื่อน ๆ บางคนก็มักจะเปิดหน้าต่างระหว่างวันเพื่อถ่ายเทอากาศกันใช่ไหมคะ ขณะนั้นเองฝุ่นละอองและมลภาวะต่าง ๆ ก็จะเล็ดลอดเข้ามาในห้อง ยิ่งถ้าใครอยู่ในเมืองหรือใกล้สถานที่ก่อสร้างก็จะยิ่งได้รับเยอะ เครื่องฟอกอากาศที่เหมาะกับคุณจึงควรมีค่า Air Flow ที่มากกว่ารุ่นทั่วไปนิดนึงค่ะ แต่อย่างไรก็ตามรุ่นที่มีกำลังฟอกอากาศได้อย่างรวดเร็วก็จะกินไฟมากกว่ารุ่นที่มีแรงน้อย ลองใช้ควบคู่กับฟังก์ชันการตั้งเวลาเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพที่เหมาะสมกับความต้องการ

6. เลือกรุ่นที่เป็นแผ่นกรอง HEPA Filter

สำหรับคนที่มีอาการภูมิแพ้ ไม่ว่าฝุ่นหรือเกสรดอกไม้ ต้องการกำจัดมลภาวะในอากาศให้หมดจด แนะนำให้เลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศที่ใช้แผ่นกรองประเภท HEPA Filter เพราะแผ่นกรองดังกล่าวสามารถจับเกสร ฝุ่นทั่วไป และฝุ่น PM 2.5（ฝุ่นขนาด 2.5μm）เอาไว้ได้และหากเป็นฝุ่นขนาด 0.3μm ก็สามารถกำจัดได้ถึง 99.97％ ขึ้นไป

ปัจจุบันแม้ยังไม่เป็นที่แพร่หลายนักแต่ก็มีเครื่องกรองอากาศที่ใช้แผ่นกรองคุณภาพสูงอย่าง TAFU Filter ที่คงประสิทธิภาพยาวนานหรือ ULPA Filter ที่กำจัดสิ่งแปลกปลอมอณูเล็กมาก ๆ ได้ ใครสนใจลองเช็คดูสินค้าอย่างสม่ำเสมอนะคะ

เช็คฟังก์ชันเบ็ดเตล็ดอื่น ๆ

ตามที่เราได้เกริ่นไปในตอนต้น เดี๋ยวนี้แบรนด์ต่าง ๆ พัฒนาเครื่องฟอกอากาศให้มีฟังก์ชันการใช้งานอื่น ๆ เพิ่มมากขึ้นแล้วค่ะ แต่ละรุ่นจึงมีความพิเศษเฉพาะตัว เรามาดูกันดีกว่าว่าฟังก์ชันใดที่เหมาะกับการใช้งานของเรา

7. ฟังก์ชันดับกลิ่นไม่พึงประสงค์ เหมาะกับบ้านที่มีสัตว์เลี้ยง / มีสมาชิกที่สูบบุหรี่

ทุกๆ คนคงเคยเจอเหตุการณ์กลิ่นไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ ติดห้อง เช่น กลิ่นอาหาร, กลิ่นบุหรี่ หรือแม้แต่กลิ่นสัตว์เลี้ยงเอง โดยทั่วไปแล้วคุณก็คงจะเลือกซื้อสเปรย์ปรับอากาศหรือน้ำหอมปรับอากาศในบ้านมาใช้กันใช่ไหมคะ ซึ่งผลิตภัณฑ์เหล่านี้มักจะใช้ได้แค่ชั่วคราวเท่านั้น แถมยังไม่ช่วยให้อากาศบริสุทธิ์ขึ้นแต่อย่างใด เพื่อคุณภาพของอากาศที่ดียิ่งขึ้นแนะนำให้เลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศที่มีฟังก์ชันดับกลิ่นมาใช้ ซึ่งเครื่องจะมีเซนเซอร์ดักจับกลิ่นและกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ ให้เราโดยอัตโนมัติ

8. ฟังก์ชันดักจับฝุ่นละออง PM 2.5

ปัญหาฝุ่น PM 2.5 กลายเป็นปัญหาใหญ่ในบ้านเราไปเสียแล้ว เพื่อปกป้องสุขภาพทั้งตัวคุณและคนในครอบครัวแนะนำให้ซื้อรุ่นที่มีประสิทธิภาพในการกำจัดฝุ่นระดับนี้ได้ เพราะเครื่องจะมีเซนเซอร์ตรวจจับและกำจัดฝุ่นละอองต่าง ๆ ที่เข้ามาในห้องไม่ว่าจะควันไอเสียจากรถ ฝุ่นจากการก่อสร้าง เกสรดอกไม้ ฝุ่นในบ้าน แม้ว่าจะมีอณูขนาดเล็กเพียง 2.5 ไมครอนก็ตาม จึงช่วยให้อาการบริสุทธิ์มากขึ้น ขณะเดียวกันยังช่วยควบคุมปริมาณฝุ่นละอองไม่ให้มากเกินกว่าที่ร่างกายสามารถรับได้ด้วย

เกร็ดน่ารู้ : PM 2.5 คือ ฝุ่นขนาด 2.5 ไมครอน เป็นฝุ่นที่มีขนาดเล็กมาก สามารถเข้าสู่ทางเดินหายใจ ถุงลมในปอดและกระแสเลือดโดยตรง เพิ่มความเสี่ยงที่จะเป็นโรคเรื้อรัง

9. ฟังก์ชันลด/เพิ่มความชื้นตามฤดูกาล

สำหรับประเทศไทยฟังก์ชันนี้อาจจะไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าไร เพราะเมืองไทยมีอุณหภูมิเฉลี่ยทั้งปีไม่ต่างกันมากนัก แต่ถ้าใครเคยเจอปัญหาห้องเหม็นอับชื้นในช่วงฤดูฝน กับรู้สึกว่าอากาศแห้งมากเมื่อเปิดแอร์หรือในช่วงฤดูที่อากาศเย็น แนะนำให้เลือกซื้อรุ่นที่มีฟังก์ชันนี้เลยค่ะ เพื่อช่วยปรับความชื้นในห้องให้สมดุลตลอดทั้งปี แถมยังลดความเสี่ยงที่จะเป็นหวัด ตื่นมาคอแห้งจากอากาศที่แห้งเกินไปอีกด้วย

เครื่องฟอกอากาศนั้นมีหลายยี่ห้อและแต่ละยี่ห้อก็มีเอกลักษณ์ คุณสมบัติพิเศษของผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างกันไป เราอาจจะพิจารณาเลือกซื้อจากชื่อแบรนด์ที่คุณลักษณะตรงความต้องการของเราก็ได้ 

เชื่อว่าข้อมูลข้างต้นจะช่วยให้เพื่อนๆ สามารถเข้าใจ และช่วยตัดสินใจในการเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศให้เหมาะสมกับตัวเอง

ฝากติดตามเพจกันด้วยนะ Review Promote จะได้ร่วมเป็นแก๊งค์เดียวกัน #เที่ยวเก่ง #กินเก่ง #ReviewPromote