เที่ยวบรรยากาศสไตล์ชิโนโปรตุกีส @ภูเก็ต
‘ตึกโบราณสไตล์ชิโน-โปรตุเกส’ แลนด์มาร์กอีกแห่งของจังหวัดภูเก็ตที่ตั้งตระหง่านอยู่ในย่านการค้า ได้รับแรงบันดาลใจจากศิลปะตะวันตกและตะวันออกผสมผสานกันอย่างกลมกลืน จนกลายเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นประจำเมืองภูเก็ตที่นักท่องเที่ยวทุกคนต้องมาเยือนไปแล้ว
> เส้นทางการเดินชมตึกเก่าชิโนโปรตุกีส <
ช่วงที่ 1 ณ ถนนภูเก็ต ถนนรัษฎา และถนนระนอง
เริ่มจากศูนย์รวมข่าวพรหมเทพ เริ่มจากศูนย์รวมข่าวพรหมเทพ ซึ่งตั้งอยู่หัวมุมถ.พังงาตัดกับถ.ภูเก็ต เมื่อเดินลง มาตามทิศใต้ เลี้ยวขวาเข้าถ.รัษฎาไปจนถึงวงเวียนสุริยเดช และตรงไปตามถ.ระนอง ผ่านตลาด จนถึงบริษัท การบินไทยซึ่งช่วงนี้จะได้พบกับตึกสวยงามมากมาย อาทิ ศูนย์รวมข่าวพรหมเทพ อาคารสีขาว 2 ชั้น ที่โดดเด่น ด้วยหอนาฬิกาสูง 4 ชั้น มีหลังคาคล้ายรูปหมวกตำรวจสมัยก่อน ช่องประตูหน้าต่างแบ่งเป็นช่องโค้งมีเสาอิงแบ่ง เป็นช่วง ประดับลายปูนปั้นบนยอดซุ้มโค้งสวยงามและโรงแรมถาวร โรงแรมเก่าแก่ ที่เมื่อเข้าไปภายในโถง โรงแรมและส่วนคอฟฟี่ชอป จะได้รับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับเมืองภูเก็ตผ่านนิทรรศการ ภาพถ่าย และมีเครื่องเรือน ตู้โทรศัพท์ เครื่องฉายภาพยนตร์ เครื่องแต่งกาย ข้าวของเครื่องใช้ของคนงานในเหมืองให้ได้ชมอีกด้วย
ช่วงที่ 2 ถนนพังงา ถนนภูเก็ต และถนนมนตรี
เริ่มต้นที่มุมถนนระนองตัดกับเยาวราช บริเวณวงเวียนสุริยเดช เดินไปตามถนนเยาวราช 70 ม.เลี้ยวขวาเข้าถนนพังงา จนถึงสี่แยกตัดกับถนนภูเก็ต ซึ่งช่วงนี้อาจเลี้ยวซ้ายตามถนนภูเก็ต ข้ามไปสี่แยกถนนมนตรีแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนมนตรี เส้นทางช่วงนี้เป็นเส้นที่มีตึกแถวเก่า ศาลเจ้าเก่า อาคารสาธารณะ อาคารราชการ ซึ่งแต่ละที่ล้วนแล้วแต่มี สถาปัตยกรรมสไตล์ชิโนโปรตุกีสที่งดงาม
ช่วงที่ 3 ถนนถลางและซอยรมณีย์
เป็นถนนสายประวิติศาสตร์อันเก่าแก่ ตรงช่วงนี้จะมีอาคารตึกแถวเก่าที่มีรูปแบบเดิมๆเกาะกลุ่มกันอยู่เป็นจำนวนมากโดยมีจุดเด่นอยู่ตรงที่มีการเปิด ช่องทางเดินเอาไว้เหมือนในอดีต ซึ่งเส้นทางนี้เริ่มต้นจากสี่แยกถนนถลางตัดกับภูเก็ตไปจนสุดสี่แยกตัดกับ ถนนเยาวราช มีตึกแถวกว่า 151 คูหาโดยมีตึกแถวที่น่าสนใจตรงช่วงตึกแถวบ้านเลขที่ 107 ถึง 129 ที่ตัวตึกมี รูปแบบการตกแต่งช่องหน้าต่างโค้งตามแบบสถาปัตยกรรมยุคนีโอคลาสสิค มีลวดลายที่ดงามเน้นธรรมชาติเถาไม้ ใบไม้ และรูปสัตว์ และก็มีตึกแถวตรงฝั่งเลขคู่ช่วงปลายถนน ซึ่งตึกแถวบริเวณนี้มีลักษณะเด่นอยู่ที่ประตูด้านหน้า เป็นแบบบานเฟี้ยมไม้เก่าแก่ ช่วงเสาจะกว้างเท่ากับตึก 2 คูหารวมกัน มีการนำศิลปะการเจาะช่องหน้าต่างและ ลวดลายปูนปั้นแบบอาร์ตเดโคมาใช้ได้อย่างกลมกลืนและสวยงาม
ช่วงที่ 4 ถนนกระบี่ และถนนสตูล
เริ่มจาก ถนนกระบี่บริเวณแยกถนนเยาวราช เดินไปทางตะวันตกจนถึงสามแยกตัดกับถนนสตูล เดินตรงไปถึงบ้าน คุณประชา ตัณฑวณิช ย้อนกลับมาจนถึงสามแยกตัดกับถนนดีบุก เส้นทางสายนี้มีอาคารเก่าที่ชวนชม อย่างอาคาร พิพิธภัณฑ์ภูเก็ตไทยหัว เป็นตึก 2 ชั้น ชั้นล่างมีซุ้มโค้งเตี้ยขนาดใหญ่ 3 ซุ้ม มีเสากลมรับโค้ง หัวเสาประดับ ด้วยลายบัวแบบกึ่งไอโอนิค และคอรินเธียน ผนังอาคารเซาะร่องขนาดใหญ่ เรียกว่า Rustication ชั้นบนมี ซุ้ม หน้าต่าง 3 ซุ้ม มีช่องหน้าต่าง 2 ช่องกรอบหน้าต่างด้านบนเป็นจั่วโรมัน บานหน้าต่างไม้สี่เหลี่ยม มีลวดลาย เรขาคณิต เหนือซุ้มช่วงกลางมีหน้าจั่วปูนปั้นรูปค้างคาว และช่วงถนนนี้ยังมีร้านอาหารท้องถิ่นจำนวนมาก เพื่อว่า เดินไปแล้วหิวก็แวะเช้าไปชิมกันได้ ไม่ว่าจะเป็นร้านสุนทรโอชาขายข้าวต้มและอาหารพื้นเมือง ร้านขนมจีนป้ามัย ร้านหมี่แป๊ะแถว
ช่วงที่ 5 ถนนเยาวราช ตรอกสุ่นอุทิศ ถนนดีบุก
ช่วงนี้เริ่มจากแยก ถนนดีบุกตัดกับสตูล เดินตามถนนดีบุกจนถึงสี่แยกตัดกับเยาวราช พอเลี้ยวขวาเข้า ถนนเยาวราช จะได้สัมผัสกับบรรยากาศตึกเก่าและแวะลิ้มรสอาหารอร่อยในตรอกสุ่นอุทิศ แล้วย้อนกลับมา สี่แยกเลี้ยวเข้า ถนนดีบุก อีกช่วงหนึ่งจะเข้าสู่ซอยรมณีย์ การเดินชมเมืองในช่วงนี้จะได้สัมผัสกับความหลากหลาย ของตึกชิโน โปรตุกีส ที่หาดูได้ยาก อย่างที่บ้านหลวงอำนาจนรารักษ์ เป็นบ้านที่มีความงดงามโดดเด่นอยู่ที่ลายปูนปั้นตั้งแต่ หัวเสาแบบคอมโพสิต และช่วงคานเหนือเสา เป็นศิลปะแบบกรีกยุคคลาสสิคผสานกับปูนปั้นลายค้างคาว ลายหงส์ ลายเมฆ รวมทั้งลายใบไม้ และผลไม้ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์มงคลของคนจีน
และสุดท้าย ช่วงที่ 6 ถนนกระษัตรี
ช่วงนี้เป็นช่วงต่อจากเส้นทางเดินที่ซ.รมณีย์ เลี้ยวซ้ายทะลุออกถนนถลาง เมี่อถึงสี่แยกเลี้ยวซ้ายเดินตาม ถนนเทพกระษัตรี พอถึงแยกตัดกับถนนดีบุก อาจแวะชมบ้านเก่าแล้วย้อนออกมาตามถนนเทพกระษัตรีอีกครั้งจนไปสิ้น สุดเส้นทางที่คฤหาสน์ตระกูลหงส์หยก หรือบ้านหลวงอนุภาษภูเก็ตการ ซึ่งเป็นบ้านที่สร้างในสมัยร. 7 ด้านหน้า อาคารเป็นรูปโค้งครึ่งวงกลมกลมขนาดใหญ่ที่รถยนต์เข้าไปจอดเทียบได้ ชั้นล่างเป็นซุ้มโค้งเตี้ย 3 โค้ง หัวเสา จะเป็นแบบดอริก ผนังเซาะเป็นร่องลึก คล้ายแนวหินก่อ ชั้นบนเป็นระเบียง มีลูกกรงปูนปั้นประดับ หลังคาทรง ปั้นหยา ด้านปีกซ้ายมีช่องแสงเป็นรูปโค้งครึ่งวงกลมประดับด้วยบานเกล็ดไม้ ด้านปีกขวาตกแต่งช่องแสงด้วย กระจกสีต่างๆ กรุในกรอบสี่เหลี่ยมมีรูปวงกลมอยู่ข้างใน นับว่าเป็นคฤหาสน์หลังใหญ่ที่ งดงามทางด้าน สถาปัตยกรรมเป็นอย่างมาก
Things to do : เริ่มจากตัวเมืองภูเก็ตหากไม่มีรถส่วนตัว สามารถนั่งมอเตอร์ไซต์ราคาประมาณ 40-50 บาท ให้มาส่งที่ย่านเก่า หลังจากนั้นก็เดินชมเมืองต่างๆ ด้วยเท้าไปเรื่อยๆสำหรับผู้ที่มีรถส่วนตัว็สามารถจอดรถ ในจุดไหนที่สะดวกใน บริิเวณใกล้้เคียงแล้วค่อยเดินมา เพราะหากจอดรถแถวย่านเก่าอาจจะหาที่จอดยาก
ที่มา : http://phuketairportthai.com/th/popular-destinations/2320/%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A8%E0%B8%AA%E0%B9%84%E0%B8%95%E0%B8%A5%E0%B9%8C%E0%B8%8A%E0%B8%B4%E0%B9%82%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%95%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B8%B5%E0%B8%AA-@%E0%B8%A0%E0%B8%B9%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B9%87%E0%B8%95
แชร์บอกให้เพื่อนคุณรู้